21 กันยายน 2553

วัดใต้น้ำสังขละบุรี Unseen Thailand


เคยเห็นรูปวัดใต้น้ำในหนังสือ เห็นสะพานไม้ที่สังขละ ชอบมากๆ อยากไปเห็นของจริง ว่าจะสวยงามเหมือนในภาพหรือไม่ และแล้ววันนั้นก็มาถึงได้ไปเห็นถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกวัดจมอยู่ใต้น้ำ ครั้งที่ 2 ได้ข่าวว่าน้ำลดจนเห็นพื้นวัดอยากไปเห็นสุดๆ ชวนเพื่อนจองที่พักไปทันที  เดินทางออกจากกรุงเทพฯ 7 โมงเช้า แวะเที่ยวตามทาง ทานอาหารไปเรื่อย ที่แรกที่จะแนะนำคือ วัดหลวงตาบัว (Tiger Temple)



ทางเข้าวัดหลวงตาบัว ไปถึงวัดประมาณ 11 โมง คนไทยก่อนเที่ยงเข้าชมฟรี
ช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่จะนำเสือออกมาให้ชม มีการให้นมเสือน่ารักมากๆ ให้ถ่ายรูปกับเสือด้วย



ถามว่ากลัวมั๊ย กลัวเหมือนกันแต่ไปถึงที่แล้วต้องขอถ่ายรูปกับเสือเอามาอวดเพื่อนๆกันหน่อย
ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเวลาจับเสือให้วางมือไปเต็มๆ ไม่ต้องลูบเสือจะรำคาญ
ออกจากวัดประมาณบ่ายโมงครึ่ง ไม่ได้รอหลวงตาลงมาเพราะกลัวว่าจะไปถึงสังขละมืด  



แวะน้ำตกผาตาด อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ ถ่ายรูปกันอีกนิด
ออกจากน้ำตกผาตาดก็ตรงสู่สังขละเลย
ทางไปสังขละไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง
ถึงที่พักสามประสบรีสอร์ท ถ้าใครอยากไปพักที่นี่ขอแนะนำห้องพักบีคลี่
เพราะจะเป็นมุมที่ถ่ายรูปสะพานสวยมาก ห้องราคาคืนละ 1300 บาท
รวมอาหารเช้าเป็นกาแฟ ขนมปัง ข้าวต้ม
ภาพบ้านพักถ่ายจากสะพานสังขละ
อีกมุมหนึ่งของบ้านที่สามารถมองเห็นสะพานสังขละและบรรยากาศโดยรอบได้สวยงามมากๆ
ให้ดูสังขละภาพนี้ก่อนถ่ายเมื่อเดือนธันวา ปีที่แล้วน้ำเต็ม


ช่วงเย็นเด็กๆจะมากระโดดน้ำที่สะพานสังขละ ให้พวกเราได้ถ่ายรูปน่ารักๆกัน
ภาพนี้เป็นภาพปัจจุบันสะพานสังขละน้ำแห้งมาก ชาวบ้านบอกว่าไม่เคยแห้งขนาดนี้มาก่อน
เด็กๆไม่มีใครกล้ามากระโดดสะพานอีกเลยกลัวเจอ....
สะพานมอญที่สังขละนี้เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เดิมชาวบ้านเรียกว่า สะพานบาทเดียว
สร้างด้วยแพไม้ไผ่ต่อติดกัน เวลามีคนเดินข้ามจะเก็บคนละ 1 บาท ต่อมาหลวงพ่ออุตตมะเห็นว่า ชาวบ้านเดือดร้อนที่ต้องเสียเงินข้ามสะพานกันทุกวัน จึงคิดสร้างสะพานเชื่อมโดยใช้ไม้เนื้อดีทั้งหมด สร้างเสร็จประมาณ พ.ศ. 2530 ใช้เวลาสร้าง 8 เดือน โดยแรงงานชาวมอญและแรงศรัทธาจากชาวบ้าน โดยไม่ใช้เครื่องจักรในการก่อสร้าง ปัจจุบันชื่อเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ มีความยาวประมาณ 900 เมตร

ภาพสังขละยามราตรี
ทานอาหารค่ำที่สามประสบรีสอร์ท ปลาทอดอร่อยสุดๆ กรอบนอกนุ่มใน
ตื่น 6 โมงเช้า ข้ามสะพานไปใส่บาตรที่ฝั่งมอญ

ชุดละ 99 บาท ดอกไม้ช่อละ 10 บาท

วิถีชาวบ้านฝั่งมอญ
หลังจากใส่บาตรทานอาหารเช้าเสร็จ ก็เหมาเรือลำละ 300 บาทเพื่อพาไปชมวัดใต้น้ำสังขละ

และบรรยากาศหมอกยามเช้า
นั่งเรือผ่านเจดีย์พุทธคยาจำลอง สวยงามจับตาจริงๆ
2 ภาพนี้เป็นภาพวัดใต้น้ำ สังขละบุรี เมื่อเดือนธันวา ปีที่แล้ว
ภาพนี้เป็นภาพวัดใต้น้ำ สังขละบุรี ปัจจุบันน้ำแห้ง จนเห็นพื้นหญ้าขึ้นเต็มไปหมด
พอเรือไปถึงก็จะมีเด็กๆมาขายดอกไม้ไหว้พระในโบถส์ ช่อละ 10 บาท
ชมความงาม Unseen Thailand วัดใต้น้ำ สังขละบุรี ที่หาชมได้ยาก
ภาพนี้ถ่ายจากหน้าต่างโบถส์ เห็นธรรมชาติสวยงามไปอีกแบบ
อีกภาพของสะพานตอนนั่งเรือกลับรีสอร์ท
กลับจากชมวัดใต้น้ำ สังขละบุรี ก็อาบน้ำไปชมวัดวังก์วิเวการาม
สิงห์หน้าเจดีย์พุทธคยา
ชมความงามเจดีย์พุทธคยา
ภาพสุดท้ายก่อนออกจากสังขละบุรี
อยากบอกว่าประทับใจในธรรมชาติ และทุกสิ่งที่สังขละบุรี ใครยังไม่เคยไปแล้วชอบเที่ยวแนวนี้ลองไปดูแล้วจะไม่ผิดหวัง..............

6 ความคิดเห็น:

  1. พี่ดาถ่ายรูปกับเสือจริงๆหรือตัดต่ออะ...

    ตอบลบ
  2. ถ่ายจริงซิจ้ะ รุ่นนี้แล้วไม่มีการตัดต่อ ภาพจริงทุกภาพ จ้า.......

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ7 ตุลาคม 2553 เวลา 16:11

    สวยมากๆ อยากไปจัง

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ7 ตุลาคม 2553 เวลา 17:03

    ถ่ายาพเก่งจังเลย ชอบมากคะ วิวก็สวย น่าไปนั่งจิบกาแฟตรงมุมระเบียงจัง

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ8 ตุลาคม 2553 เวลา 08:42

    พี่ดานี่ถ่ายภาพฝีมือจริงๆ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ9 ตุลาคม 2553 เวลา 22:20

    ชอบเรื่องเล่า จากรูปภาพ และเรื่องราวมีชีวิตที่สัมผัสได้จังเลยครับ

    ตอบลบ